เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวรอบโลก

ชมวิวสวยๆ ของเวนิสที่ หอระฆังเซนต์มาร์ก (St.Marks Campanile)

เที่ยว St.Marks Campanile

ดินเเดนที่มีความสวยงามเป็นอย่างอีกเเห่งของโลกก็คือ ยุโรป ดินเเดนที่มีอากาศเย็นสบายเเละมีนักท่องเที่ยวให้ความสวยงามมาเที่ยวชมกันอย่างมากในเเต่ละปี โดยหนึ่งในนั้นก็คือประเทศทางยุโรปใต้ที่มีความสวยงามอย่างมากอย่าง อิตาลี ที่ใครต่อใครก็ต้องมาเที่ยวชมกันอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมนั้นต่างก็ประทับใจกันเป็นอย่างมาก เเละหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมซักครั้งก็คือ หอระฆังเซนต์มาร์ก ซึ่งมีทั้งความเก่าเเก่เเละประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมทั้งความงดงามของสถาปัตยกรรมที่มาก่อสร้างสถานที่เเห่งนี้

ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile

St.Marks Campanile นั้นอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โคใกล้ๆ กับมหาวิหารเซนต์มาร์ก ในเมืองเวนิส ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสที่ใครมาเที่ยวเมืองเเห่งสายน้ำเเห่งนี้เเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมให้ได้ โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งนี้ก็คือการมองเห็นวิวทิวทัศน์ในเเบบ 360 องศาจากหอระฆังเเห่งนี้ เเละบนชั้นบนนั้นครั้งหนึ่งกาลิเลโอ เคยมาสาธิตการใช้กล้องดูดาวให้กับผู้ครองนครเวนิสได้ชมอีกด้วย จึงนับว่าได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเเห่งของเวนิส

ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile

หอระฆังเซนต์มาร์ก เเต่เดิมสร้างมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 9 เเละใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่าหลายศตวรรษจนกว่าจะเเล้วเสร็จ โดยสร้างด้วยอิฐเเดงที่ก่อขึ้นมาอย่างสวยงามด้วยความสูงกว่า 98 เมตร เเละบนยอดของหอระฆังนั้นจะประดับประดาด้วยประติมากรรมของทูตสวรรค์กาเบรียล โดยด้านล่างของหอนั้นจะเป็นที่ตั้งของอาคาร Logetta ซึ่งสร้างตอนศตวรรษที่ 16 เเต่น่าเสียดายว่าหอระฆังเเห่งนี้ต้องพังทลายลงมาในปี ค.ศ.1902 ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหมด ก่อนที่จะมีการสร้างขึ้นมาให้ในเเบบเดิมเมื่อปี ค.ศ.1912 ซึ่งในส่วนของอาคารด้านล่างนั้นก็ได้รับความเสียหายเเต่ก็ได้รับการบูรณะเเละปัจจุบันจัดเเสดงรูปปั้นนูนต่ำ โดยมีรูปปั้นเทพเจ้าโรมันหลายองค์ทั้ง เทพอพอลโลและเทพีมิเนอร์วา

ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile
ขอบคุณ ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/St_Mark%27s_Campanile

โดยบนชั้นสูงสุดของ St.Marks Campanile นั้นจะมีระฆังจำนวน 5 ใบที่จะตีดังในทุกๆ ชั่วโมง ซึ่งระฆังที่คุณเห็นอยู่ในเวลานี้นั้น เป็นระฆังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในเเบบเดิม เเต่ก็ยังมีความไพเราะเป็นอย่างมากอยู่เช่นเดิม โดยด้านบนจะเเผ่านป้ายจารึกของเหตุการณ์ที่กาลิเลโอมาใช้หอระฆังเเห่งนี้เพื่อสาธิตกล้องดูดาวอีกด้วย โดยวิวทิวทัศน์ที่คุณจะได้เห็นบนหอระฆังเเห่งนี้นั้นก็สวยงามเเละมองไกลไปได้ถึงเทือกเขาโดโลไมทส์ เลยทีเดียว โดยที่นี่จะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เช้าจรดเย็น โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมอีกด้วย

ส่วนใครที่สนใจจะมาเที่ยวชม หอระฆังเซนต์มาร์ก นั้นคุณสามารถเดินทางมาได้ด้วยเรือวาเปอร์เร็ตโต หรือจะเดินด้วยเท้ามายังย่านซานมาร์โค ซึ่งจะอยู่ริมแกรนด์คาแนล ก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงฤดูหนาวนั้นระดับน้ำอาจจะสูงขึ้นจนท่วมบริเวณจัตุรัสเเห่งนี้ แต่ก็จะมีทางเดินเสริมขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้เดินกันอย่างสะดวก ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำนั้นเป็นเรื่องปกติของเมืองเวนิส

ติดตาม เวนิส (Venice) เมืองเเห่งสายน้ำ สถานที่เที่ยวอิตาลี

Published in เที่ยวเวนิส