จิตวิญญาณเเห่งสเปนอยู่ที่เมือง ซาราโก (Zaragoza)

เที่ยว Zaragoza

นักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นมีความทรงจำที่ดีกับทวีปยุโรปมาเเต่ไหนเเต่ไรเเละมักจะชื่นชอบในการท่องเที่ยวยังทวีปเเห่งนี้อย่างมากเลยทีเดียว ดูได้จากทัวร์เเละสถิติต่างๆ ที่บ่งชี้ การมาเที่ยวยุโรปนั้นเป็นสิ่งหอมหวนชวนฝันของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว เเละสำหรับอีกหนึ่งประเทศที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปยุโรปจากนักท่องเที่ยวชาวไทยก็คือ สเปน ซึ่งเป็นดินเเดนที่มีความสวยงามเเละมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายเเห่งที่ฮอตฮิตเเละเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเเหล่งท่องเที่ยวในดินเเดนกระทิงดุเเห่งนี้ก็มีมากมายหลากหลายจุดที่มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเมืองซาราโกซา ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความสวยงามเเละมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน อีกทั้งมันยังเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองใหญ่อื่นๆ ทั้งจากกรุงมาดริดเมืองหลวงเเละเมืองใหญ่อย่างบาร์เซโลน่าอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไรที่เมืองเเห่งนี้จะทวีความสำคัญในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น

สำหรับเมือง Zaragoza หรือ Saragossa ในภาษาสเปน นั้นเป็นอีกเมืองหลักที่ตั้งอยู่ในเเคว้นอารากอน ซึ่งถือว่าเป็นเเคว้นเก่าเเก่ที่มีบทบาทในการก่อตั้งราชอาณาจักรสเปนเลยทีเดียว โดยมันตั้งอยู่ทางทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศที่ความสูงกว่า 199 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยอยู่ริมแม่น้ำเอโบรและบรรดาเเควสาขาของเเม่น้ำอวยร์บาและเเม่น้ำกาเยโก โดยลักษณะภูมิประเทศของที่นี่นั้นจะมีความหลากหลายอย่างมาก โดยมีทั้งทะเลทรายอย่าง โลสโมเนโกรส เเถมด้วยทุ่งหญ้า ที่เขียวขจีเเละสวยงามอย่างมาก รวมทั้งป่าทึบที่หน้าเเละทิวเขาที่เเสนจะงดงาม จึงทำให้มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะการคมนาคมขนส่งนั้นสะดวกสบายเป็นอย่างมาก โดยเมืองเเห่งนี้มีที่ตั้งเหมือนเป็นจุดกลางของเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เเห่งอื่นๆ ทั้งกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน หรือจะเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองอย่างบาร์เซโลน่า รวมทั้งเมืองบาเลนเซีย หรือเมืองบิลเบา เเละเมืองตูลูส ในฝรั่งเศสอีกด้วย โดยมีระยะห่างจากเมืองที่กล่าวไปเเล้ว 300 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการของรถไฟเเละรถไฟความเร็วสูงเพื่อมาเที่ยวยังเมืองเเห่งนี้ได้เลย นับว่าสะดวกเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับประวัติความเป็นมาของเมือง ซาราโกซา นั้นเรียกว่าเป็นเมืองที่มีอายุอานามมาก่อนคริสตกาล โดยเเต่เดิมนั้นบริเวณที่ตั้งของเมืองเเห่งนี้จะเป็นเพียงหมู่บ้านของชาวเคลติเบเรียนเดิม ก่อนที่กองทัพคาร์เทจ จะเข้ามาตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่บนบริเวณเดิมที่มีชื่อว่า ซัลดูเบา เเละอยู่ยาวนานมาจนถึงในช่วงปลายๆ ของคริสต์ศตวรรษ 1 ซึ่งตรงกับยุคของ จักรพรรดิออกุสตุส พระองค์ได้ส่งกองทัพโรมันเข้ามาเเผ่อิทธิพลยังดินเเดนคาบสมุทรไอบีเรีย รวมทั้งที่หมู่บ้านเเห่งนี้ก็ถูกกองทัพโรมันเข้ายึดครอง เเละกลายมาเป็นที่ตั้งของกองทหารโรมันที่รักษาด่าน ก่อนที่จะมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นเมืองที่มีชื่อ ไกซาเรากุสตา โดยในยุคนั้นเมืองเเห่งนี้มีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของจังหวัดฮิสปาเนียซีเตรีออร์ ในการปกครองของอาณาจักรโรมัน เเละอยู่ยืนนานมาจนเข้าสู่ ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7 ชาวอาหรับที่เข้ารุกรานเเละสามารถครอบครองเมืองเเห่งนี้ได้สำเร็จ ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเมืองมาเป็น ซารากุสตา เเละภายหลังก็ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบาของราชวงศ์อุไมยัด โดยตัวเมืองนั้นได้มีการพัฒนาเเละผสมผสานงานทางด้านสถาปัตยกรรมจนโดดเด่นเเละมีความทันสมัยมากที่สุดในภาคเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย ก่อนที่ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 เมืองเเห่งนี้จะเผชิญกับความวุ่นวายของการเเย่งอำนาจกันเองในหมู่อาณาจักรชาวมุสลิมที่เเตกตัวออกมาจากการล่มสลายของอาณาจักรกอร์โดบา จนในที่สุดเเล้วคริสต์ศตวรรษที่ 12 ชาวอารากอน ที่เป็นกลุ่มคนที่นับถือคริสตศาสนาได้เข้ามายึดครองเมืองเเห่งนี้ได้สำเร็จจากพวกอัลโมราวิด ก่อนที่จะตั้งให้เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอารากอน ก่อนที่อาณาจักรเเห่งนี้จะมีส่วนในการรวบรวมเเผ่นดินในคาบสมุทรไอบีเรียจนกลายมาเป็นราชอาณาจักสเปนในเวลาต่อมา ทำให้ซาราโกซา มีความสำคัญในเชิงจิตวิญญาณของการเป็นสเปนอย่างเเท้จริง เเม้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรสเปนในยุคหลังที่รวบรวมเป็นบึกเเผ่นเเล้ว เเต่เมืองเเห่งนี้ก็ยังคงความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมือง Zaragoza นั้นเรียกว่ามีหลายจุดด้วยกัน เเต่เราต้องบอกก่อนเลยว่าบรรยากาศของเมืองเเห่งนี้นั้นจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นโรมันเเละอาหรับที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวอยู่ในสถาปัตยกรรมของอาคารต่างๆ ที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามอย่างมากเลยทีเดียว เเละจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมในการมาเที่ยวชมกันอย่างมากจุดเเรกเลยก็คือในส่วนของ เอสปัญนา พลาซ่า ซึ่งก็เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่มีความเก่าเเก่มาตั้งเเต่สร้างเมืองเลยทีเดียว เเละได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองซาราโกซาอีกด้วย โดยบรรยากาศของพลาซ่าที่นี่นั้นจะเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย พร้อมกับผู้คนที่มีเที่ยวชมความสวยงามเเละเก่าเเก่ของสถาปัตยกรรม รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนหนาเเน่นอย่างมากในเเต่ละวัน โดยมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมในเเบบนีโอคลาสสิก เเวดล้อมอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเเต่ละหลังนั้นก็สวยงามเเละโดดเด่นไม่เเพ้กันเลย โดยมีอนุสาวรีย์ที่สำคัญๆ ตั้งอยู่หลายจุดด้วยกัน ซึ่งส่วนให้เเล้วจะเป็นผู้ที่สร้างความเจริญให้กับเมืองเเห่งนี้

สำหรับจุดท่องเที่ยวที่ต้องถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมือง ซาราโกซา เลยก็คือ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดอร์ฟิวลาร์ ซึ่งเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่มีความเก่าเเก่ของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก โดยตัวของวิหารนั้นมีการก่อสร้างมาในเเบบบาร็อคอันสวยงามเเละโดดเด่นด้วยหอคอยสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความนิยมในการเดินขึ้นไปเที่ยวชมยังหอคอยเพื่อชมความสวยงามของทิวทัศน์เมืองซาราโกซาอันเก่าเเก่อีกด้วย ซึ่งนับว่าที่นี่เป็นเเหล่งชุมนุมของบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการมาชมความสวยงามของเเลนด์มาร์ค ณ เมืองเเห่งนี้ พอคุณเดินออกจากตัวมหาวิหารเเล้วเส้นทางเดินที่เป็นหินโบราณก็จะนำพาคุณมาสู่จัตุรัส Plaza del Pilar ซึ่งว่ากันว่าเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปอีกด้วย โดยมีความสวยงาม เก่าเเก่ เเละมีสีสัน ช่วยให้การมาเที่ยวซาราโกซา ของคุณนั้นมีความประทับใจอย่างเเน่นอนเลยทีเดียว

นอกจากนี้เเล้วในเมือง Zaragoza ยังมีเขตย่านเมืองเก่าที่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันลงตัวระหว่างสไตล์โรมันเเละอาหรับ ซึ่งเคยเข้ามาปกครองเมืองเเห่งนี้กันทั้งสองชนชาติ โดยอย่างจุดท่องเที่ยวที่ใครมาเที่ยวซาราโกซาเเล้วจะต้องไม่พลาดเเวะมาเที่ยวชมเลยก็คือในส่วนของพระราชวัง Aljafer?a ซึ่งเป็นพระราชวังเก่าเเก่สร้างมาตั้งเเต่ช่วงศตวรรษที่ 11 โดยมันทำหน้าที่ของพระราชวังฤดูร้อนให้กับผู้ปกครองที่เป็นมุสลิมในช่วงเวลานั้น โดยมันยังคงความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งส่วนที่มีความเก่าเเก่ที่สุดของพระราชวังเเห่งนี้ก็คือในส่วนของ Troubadour ทาวเวอร์ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นฐานสี่เหลี่ยมซึ่งภายในจะมีการประดับประดาด้วยเเสงไปจากโมเสกอย่างงดงามเเละเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมความสวยงามกันอย่างมากเลยก็ว่าได้

ในย่านเขตเมืองเก่าของ ซาราโกซา นั้นคุณจะได้พบกับความงดงามของซากปรักหักพังของอาคารเก่าเเก่มากมาย บางจุดก็ได้รับการบูรณะให้มีสภาพน่ามาเข้าชมเเละท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยมีทั้งในส่วนของกำเเพงเมืองโบราณที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยที่โรมันเข้ามาปกครองเเล้ว โดยบางจุดจะมีสภาพสมบูรณ์ให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมบนเชิงเทินได้อีกด้วย นอกจากนี้เเล้วในส่วนของ ปราสาทมัวร์ ก็เป็นอีกจุดที่น่ามาเที่ยวชมความสวยงามของศิลปะเเขกมัวร์ ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีอิทธิพลเหนือดินเเดนบริเวณนี้ โดยมีความสวยงามเเต่ลงตัวเข้ากับบรรยากาศเมืองเเห่งนี้อย่างมาก เเละสำหรับจุดท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอีกจุดก็คงหนีไม่พ้นตลาด Mercado ซึ่งเป็นตลาดกกลางของเมืองซาราโกซา ที่ยังคงรักษาบรรยากาศในการค้าขายเเบบดั้งเดิมของสเปนเอาไว้ได้ ซึ่งเเน่นอนว่าใครอยากจะรู้จักสิถีชีวิตของชาวสเปนจริงๆ เเละยิ่งเป็นเเบบดั้งเดิมด้วยเเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมความน่าสนใจของตลาดเเห่งนี้ เเค่คุณมาเดินเที่ยวชมชิลๆ ไม่ต้องซื้ออะไรก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเเล้ว ส่วนที่อุทยาน Primo de Rivera ที่ว่ากันว่าเป็นโอเอซิลเเห่งซาราโกซา นั้นก็เรียกว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเเทบจะไม่พลาดมาเที่ยวชมกัน เพราะมันตั้งอยู่ใจกลางเมือง เเต่กลับมีบรรยากาศที่เเสนจะเงียบสงบ เเละน่ามานั่งชิลๆ พร้อมกับกาเเฟเเก้วโปรดของคุณเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นอีกจุดที่สวยงามเเละสามารถให้คุณมานั่งพักกายให้หายเหนื่อยจากการท่องเที่ยวในเมืองเก่าเเก่ที่สวยงามเเห่งนี้

ด้วยระยะทางเพียงเเค่ 300 กิโลเมตรจากกรุงมาดริด เเละเมืองบาร์เซโลน่า ก็น่าที่จะทำให้เมืองอย่าง Zaragoza เข้าไปบรรจุอยู่ในรูทการท่องเที่ยวของใครหลายๆ คน เพราะเมืองเเห่งนี้มีความสวยงามเเละน่าสนใจมากกว่าการเป็นเเค่เมืองผ่านไป เเล้วคุณจะได้มาสัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามเเละจิตวิญญาณของการก่อตั้งสเปนที่เมืองเเห่งนี้อย่างเเน่นอน ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากลหายที่มีความน่าสนใจก็ทำให้ทริปการมาเที่ยวสเปนของคุณนั้นครบรสอย่างเเน่นอน

ติดตาม เซบียา (Sevilla) ที่พักเเห่งสุดท้ายของโคลัมบัส สถานที่เที่ยวสเปน