มหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล (Le Mont-Saint-Michel) เกาะเเห่งวิหาร

เที่ยว Le Mont-Saint-Michel

การเดินทางมาท่องเที่ยวในดินเเดนที่เเสนจะสวยงามอย่างฝรั่งเศสของนักท่องเที่ยวจำนวนมากนั้น ต่างก็ต้องประทับใจในความสวยงามเเละมนต์เสน่ห์ที่ตราตรึงใจจนหลายๆ คนต้องกลับไปอีก ซึ่งดินเเดนเมืองน้ำหอมนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวเเปลกๆ ที่เเสนจะสวยงามอยู่มากมายหลายต่อลหายเเห่งด้วยกัน โดยอย่างที่ มหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล นั้นก็นับได้ว่ามีความสวยงามเเละน่าสนใจมาเที่ยวชมอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับ Le Mont-Saint-Michel นั้นเป็นกลุ่มของอาคารที่มีทั้งที่อยู่อาศัยเเละมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว ที่ไม่ไกลจากฝั่งเเผ่นดินใหญ่ชายฝั่งทะเลชายฝั่งตะวันตก ของเมืองนอร์มังดี ในแคว้นบริตตานี เท่าใดนัก เละที่สำคัญคือมันเป็นหนึ่งในมรดกโลกของฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งในเเต่ละปีนั้นจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศมาเที่ยวชมความเเปลกเเละงดงามของที่นี่ไม่ตำกว่า 3.2 ล้านคนเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของนอร์มังดีเลยก็ว่าได้

สำหรับตัวเกาที่เป็นที่ตั้งของ มหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล นั้นจะเป็นหินเกรนิต ที่มีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร เเละมีความสูงกว่า 92 เมตรเเละเมื่อรวมกับความสูงของมหาวิหารเข้าไปด้วยเเล้วจุดที่สูงที่สุดของเกาะจะอยู่ที่ 155 เมตร โดยนับว่าที่นี่เป็นป้อมปราการอีกเเห่งที่มีความเเข็งเเกร่งตั้งเเต่ยุคกลางเลยทีเดียวโดยจากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ.2009 นั้นพบว่ามีประชากรบนเกาะเเห่งนี้อยู่ 44 คนด้วยกัน เพราะนอกจากตังของมหาวิหารเเล้ว รอบเกาะทั้งหมดนั้นจะมีอาคารที่เป็นบ้านเรือนเของประชาชนตั้งอยู่รายล้อมมาตั้งเเต่สมัยก่อนเเล้ว ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ต่างๆ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม

ส่วนในเรื่องของตำนานการก่อสร้าง Le Mont-Saint-Michel นั้นมีเรื่องเล่ากันต่อๆ มาตั้งเเต่ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสเสียอีก คือใน ปี ค.ศ.1251 นั้นนักบุญโอแบร์ ซึ่งเป็นบิชอปแห่งมาฟร็องช์ เกิดฝันว่าเทวดามีแชล มาเเนะนำให้สร้างมหาวิหารนี้ขึ้น เเต่เขาก็ไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นปีศาจมาจำเเลงกายหลอกลวง เเต่จนการฝันครั้งที่สามนั้น เทวดามีแชล ได้เอานิ้วจิ้มที่หัวของนักบุญโอแบร์ เเละเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีรูเกิดขึ้นที่หัวของเขา เขาจึงเชื่อ เเละเริ่มทำการก่อสร้างมหาวิหารขึ้นบนยอดเขา เเละมีการสร้างบ้านเรือนรอบๆ ตัววิหารขึ้นมา จนในยุคกลางนั้นก็ยังคงความเป็นมหาวิหารเเละป้อมปราการ เเต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นเกาะล้างเเละไม่มีนักบวชมาจำพรรษาที่มหาวิหารเเห่งนี้ จนในช่วงของการปฏิวัติฝรั่งเศส ที่นี่ดันถูกเเปรสภาพให้กลายมาเป็นเรือนจำสำหรับคุมขังนักโทษทางการเมือง จน วิกตอร์ อูโก ได้เรียกร้องให้มีการคืนความเป็นศาสนสถานให้กลับคืนมาเเละในปี ค.ศ.1874 ก็ประสบความสำเร็จ จนกลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเเละได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1979 ซึ่งบนยอดของมหาวิหารนั้นจะมีรูปปั้นทองคำของอัครทูตสวรรค์มิคาเอล ที่เป็นผลงานของ เอมานูแอล เฟรมีเย อีกด้วย

สำหรับการเดินทางมายัง มหาวิหารมงต์ ชาน มิเชล นั้นเเต่ก่อนจะต้องอาศัยช่วงน้ำขึ้นน้ำลงในการเดินทางผ่านถนน เเต่หลังจากนั้นเหมือนกับว่าความเป็นเกาะจะหายไปเพราะกระเเสน้ำเปลี่ยน จนได้มีการก่อสร้างเขื่อน เพื่อให้สภาพกลับมาเป็นเกาะดั่งเดิม เเละมีการสร้างสะพานเชื่อมไปยังเกาะเเทน ซึ่งคุณสามารถจอดรถไว้บนฝั่งเเผ่นดินใหญ่ โดยจะมีรถชัตเติลบัสให้บริการวิ่งจากจุดจอดรถมายังบริเวณของเกาะ

ติดตาม สัมผัสบรรยากาศความเก่าเเก่ที่ เมืองตูร์ (Tours) สถานที่เที่ยวฝรั่งเศส